วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินการ อภิปรายและข้อเสนอแนะ




บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินการ อภิปรายและข้อเสนอแนะ

จากผลการศึกษาการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยสามารถเห็นได้ว่าการนำเอาวิธีใหม่ๆ ที่คิดค้นขึ้นมาประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยจะช่วยให้การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่จังส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้าทางด้านนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป ขณะนี้วิทยาศาสตร์ยังคงมีการตื่นตัวในทุกๆด้าน อันเป็นผลจากการที่มีการคิดค้นวิทยาการใหม่ๆ นำเอาความรู้ทางชีววิทยามาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงผึ้ง  อันจะส่งผลให้มนุษย์มีความสามารถในการดำรงชีพได้มากยิ่งขึ้น

เอกสารอ้างอิง
-เชลียง เกษตรชีวิน  และ มนต์ชัย ว.เนาวรัตน์ “อู่ทองยุคเกษตร” โรงพิมพ์ พ.จิระการพิมพ์ พ.ศ.2520
-ประยงค์  จึงอยู่สุข “คู่มือการเลี้ยงผึ้งพันธ์” โรงพิมพ์ไทยนิวส์การพิมพ์
-ประดับ   แจ่มแสง “การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยเบื้องต้น”
-พงศ์เทพ อัครธนกุล “ว่าด้วยผึ้งและการเลี้ยงผึ้ง”  โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช พ.ศ. 2527


บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน

บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน

ชีวิตในสังคมผึ้ง
ผึ้งเป็นแมลงสังคมที่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่หรือเป็นกลุ่มสมาชิกในภายในรัง แต่ละรังจะมีหนึ่งครอบครัว ประกอบด้วย 3 วรรณะ คือ ผึ้งนางพญา ผึ้งตัวผู้  ผึ้งงาน ซึ่งภายในหนึ่งรังจะมีผึ้งนางพญาหนึ่งตัว   ผึ้งตัวผู้หลายร้อยตัวและผึ้งงานหมื่นๆตัวหรือมากกว่านั้น

ตารางวงชีวิตของผึ้งโพรงไทย
 


     
                                                             การเลือกสถานที่สำหรับตั้งรัง


การเลือกสถานที่สำหรับตั้งรัง ควรจะอยู่ในที่ที่ร่มรื่น แสงสว่างสาดส่องรำไร อาจเป็นใต้ต้นไม้ก็ได้ ลมพัดไม่แรง มีแหล่งน้ำสะอาดอยู่ใกล้ ๆ มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ได้แก่ ดอกไม้ผลต่าง ๆ ดอกไม้ป่า ดอกวัชพืช และดอกพืชไร่ต่าง ๆ บริเวณที่ตั้งรังผึ้ง จะต้องไม่อยู่บริเวณที่มีการเปิดแสงไฟตลอดคืน เพราะจะทำให้ผึ้งออกมาเล่นแสงไฟ เป็นเหตุให้ผึ้งไม่ได้รับการพักผ่อน และมีอายุสั้น
การหาผึ้งโพรงจากธรรมชาติ เพื่อนำมาเลี้ยง
ก่อนที่จะจับผึ้งมาเลี้ยง ต้องสำรวจดูว่ามีผึ้งอยู่ที่ใดบ้าง ในการจับผึ้งมาเลี้ยง ควรกระทำในเวลาเย็น เพราะเป็นช่วงที่ผึ้งงานกำลังจะกลับรังเกือบหมด โดยทำเป็นขั้นตอน ดังนี้ 
๑. เตรียมกล่องเลี้ยงผึ้ง คอน เครื่องพ่นควันสยบผึ้ง กล่องขังนางพญา และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม 
๒. เตรียมบริเวณที่จะจับ ให้มีความสะดวกต่อการปฏิบัติงาน โดยกำจัดสิ่งกีดขวางให้หมดก่อน จากนั้นสำรวจดูว่าผึ้งมีจำนวนรวงประมาณเท่าใด 
๓. พ่นควันให้ทั่วทั้งรังทั้งหมด เพื่อสยบผึ้ง ระวังอย่าให้มากเกินไป อาจทำให้ผึ้งตายได้ 
๔. จากนั้น ใช้มือค่อย ๆ จับรวงผึ้ง และค่อย ๆ ดึงรวงผึ้งใส่ภาชนะ ที่ละรวง ในการเคลื่อนไหวร่างกาย ควรกระทำอย่างช้า ๆ 
๕. ในขณะที่ดึงรวงผึ้งนั้น ต้องระวังจับให้เบา ๆ เพราะรวงผึ้งอาจจะบี้แบน ทำให้เสียหาย ขณะที่ดึงรวงผึ้งนั้น ต้องใช้สายตามองหาผึ้งนางพญา อย่างละเอียดตลอดเวลา ถ้าหากพบผึ้งนางพญา ให้ใช้มือรวบปีกทั้ง ๔ เข้าด้วยกัน จับเบา ๆ อย่าจับที่ตัวนางพญาเพราะอาจทำให้ตายได้ หลังจากนั้น จับนางพญาใส่กล่องขังนางพญา แล้วจับผึ้งงานอายุน้อย ๆ ใส่ลงไปด้วย ๓-๕ ตัว พร้อมกับตัดเอารวงผึ้งที่มีน้ำหวาน ใส่ลงไปด้วยเพื่อเป็นอาหารสำรอง
๖. เมื่อจับผึ้งนางพญาได้แล้ว ก็นำรวงผึ้งมาผนึกใส่คอนไม้ โดยทำเป็นขั้นตอน ดังนี้
- นำรวงผึ้งมาวางบนฝ่ามือ แล้วนำคอนมาทาบ ตัดให้ได้ขนาดพอที่จะใส่คอนได้ โดยรวงผึ้งที่จะนำมาใส่นั้น พยายามเลือกรวงผึ้งที่มีอายุน้อย ๆ และมีตัวอ่อนของผึ้งมาก ๆ


- เมื่อวัด และตัดรวงผึ้งได้ขนาดแล้ว พลิกคอนให้เส้นลวดทับรวงผึ้ง แล้วใช้มีดคม ๆ กรีดตามรอยเส้นลวด ให้ลึกประมาณครึ่งรวง ตามรอยเส้นลวดทั้งสามเส้น ใช้มือกดเส้นลวด ให้ฝังลึกลงไปในรวงผึ้ง แล้วใช้เชือกเส้นเล็ก ๆ ผูกประกอบรวงผึ้งเพื่อไม่ให้หลุด (เชือกนี้จะแก้ออกในวันที่ ๓) 
-นำรวงผึ้งที่ใส่คอนเสร็จแล้ว วางใส่ในกล่องเลี้ยงผึ้งที่เตรียมไว้ ซึ่งในการวางคอนผึ้งให้ห่างกัน ๑ ซม
๗. นำเอาผึ้งนางพญา ที่ใส่ในกล่องขังนางพญา มาผูกติดกับคอนผึ้งคอนใดก็ได้
๘. หลังจากผูกนางพญาติดกับคอนแล้ว ให้นำกล่องเลี้ยงผึ้งไปตั้งไว้ที่ตำแหน่งเดิม ที่รังเคยอยู่ ผึ้งจะบินเข้าสู่รัง เพื่อหานางพญาที่ถูกขังไว้ ประมาณ ๑ คืน ผึ้งก็จะเข้ากล่องเลี้ยงเกือบทั้งหมด
๙. รุ่งขึ้น ให้นำกล่องเลี้ยงที่ขังผึ้งทั้งหมด เคลื่อนย้ายไปตั้งยังสถานที่ที่จะเลี้ยง แล้วรีบเปิดหน้ารัง เพื่อให้ผึ้งงานออกหากินตามปกติ และปล่อยผึ้งนางพญาให้ดำรงชีวิตต่อไปตามปกติ


การดูแลรักษา
หลังจาก จับผึ้งโพรงจากธรรมชาติมาเลี้ยงแล้ว ก็ต้องหมั่นตรวจตราสภาพภายใน สัปดาห์ละ ๑-๒ ครั้ง ดังนี้
๑. ตรวจดูการวางไข่ของผึ้งนางพญาว่าปกติดีหรือไม่ สม่ำเสมอเพียงใด 
๒. ตรวจดูอาหารภายในรังว่ามีพอเพียงหรือไม่ ถ้าสภาพภายในรังขาดน้ำหวานก็ให้น้ำเชื่อมแทน 
๓. ตรวจดูว่า ปริมาณผึ้งมากน้อยเพียงใด เหมาะสมกับรังหรือไม่ ถ้าผึ้งมากก็ให้เสริมคอนเปล่าในกรณีต้องการให้ผึ้งสร้างรวงเพิ่ม และเสริมแผ่นรังเทียมกรณีต้องการน้ำหวาน 
๔. ตรวจดูภายในรวงรัง ถ้าหากพบหลอดนางพญา ที่ผึ้งงานสร้างขึ้นมา ให้รีบทำลายเสียโดยเร็ว เพื่อป้องกันการแยกรังของผึ้ง

ศัตรูของผึ้งและการป้องกัน
ศัตรูของผึ้ง ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ต่าง ๆ เช่น คางคก จิ้งจก ตุ๊กแก กิ้งก่า มด เป็นต้น ป้องกันโดยการกำจัดศัตรูเหล่านั้น และถากถางบริเวณที่ตั้งรังให้สะอาด ไม่ให้มีวัชพืชปกคลุม ศัตรูของผึ้งที่เป็นอันตรายมากก็คือ ยาฆ่าแมลง อาจจะทำให้ผึ้งตายทั้งหมดก็ได้ ป้องกันได้ โดยย้ายกล่องเลี้ยงผึ้งไปตั้งไว้ที่อื่นชั่วคราว
การเก็บน้ำผึ้งออกจากรวง
ในการเก็บน้ำผึ้งออกจากรวงนั้น ทำได้โดย “การสลัดน้ำผึ้ง” ขั้นตอนในการสลัดน้ำผึ้งออกจากรวง มีดังนี้ 
๑. ยกคอนที่มีน้ำผึ้ง แต่ไม่มีตัวอ่อนของผึ้งแล้วค่อย ๆ ไล่ให้ตัวผึ้งออก 
๒. ใช้มีดบางแช่น้ำร้อนจนมีดร้อน ปาดแผ่นไขผึ้งที่ปิดหลอดรวงเก็บน้ำหวานออก 
๓. นำตะแกรงลวดห่าง ๆ มาประกอบติดคอนน้ำผึ้งทั้งสองด้าน ก่อนที่จะสลัดนำภาชนะที่มีขนาดโตกว่าคอนผึ้ง มาไว้รองรับน้ำผึ้ง 
๔. ยกคอนน้ำผึ้งขึ้นในแนวระดับ แล้วสลัดอย่างแรงให้น้ำผึ้งตกลงในภาชนะ 
สำหรับคอนรวงเปล่า ที่สลัดน้ำผึ้งออกแล้ว ก็นำไปใช้เก็บน้ำหวานในรังผึ้งได้อีก











 

บทที่ 3 วัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน

บทที่ 3
วัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน

วิธีการดำเนินการ/อุปกรณ์ในการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย
๑. กระป๋องรมควัน  
 ๒. หมวกคลุมศีรษะ 
๓. กล่องขังนางพญา  
๔. มีด 
๕. คอนผึ้ง ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ทั้งหมด ๔ อัน ทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยม 
๖. กล่องเลี้ยงผึ้ง ทำด้วยแผ่นไม้เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีความยาว ๕๐ ซม. ความกว้าง ๔๑ ซม. ความสูง ๒๔ ซม. 
๗. แผ่นรังเทียม (Foundation)หรือแผ่นฐานรวง คือ แผ่นไขผึ้ง ที่ถูกพิมพ์ให้เป็นรอยตารางทั้งหกเหลี่ยม ทั้งสองหน้า นำมาตรึงตรงกลางของคอน เพื่อที่จะให้ผึ้งงานสร้างหลอดรวง 
๘. อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ค้อน ตะปู เลื่อย ลวด มีด ฯลฯ

การเก็บน้ำผึ้งออกจากรัง ทำได้โดยการสลัดน้ำผึ้ง ขั้นตอนในการสลัดน้ำผึ้งออกจากรัง มีดังนี้

๑. ยกคอนที่มีน้ำผึ้งมาก และมีตัวอ่อนของผึ้งน้อย หรือไม่มีเลย เขย่าคอนให้ผึ้งหลุดจากคอนจนหมด

๒. ใช้มีดบางแช่น้ำร้อนปาดแผ่นไขผึ้งที่ปิดหลอดรวงน้ำผึ้งในคอนออกให้หมด

๓. นำไปใส่ในถึงสลัดน้ำผึ้ง ถ้าไม่มีถังสลัดอาจทำได้โดยนำตะแกรงลวดห่างๆ มาประกบติดคอนน้ำผึ้งทั้งสองด้าน ก่อนที่จะสลัด แล้วนำภาชนะที่มีขนาดโตกว่าคอนผึ้งมาไว้รองรับน้ำผึ้ง ยกคอนขึ้นในแนวระดับ แล้วสลัดอย่างแรง ให้น้ำผึ้งตกลงในภาชนะ จากนั้นนำน้ำผึ้งที่ได้ไปกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งทิ้งไว้ให้ฟองอากาศลอยขึ้น แล้วจึงบรรจุใส่ขวดปิดฝาให้สนิท



บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

            ผึ้งเป็นแมลงที่คุ้นเคยกับมนุษย์มากที่สุด กล่าวได้ว่าผึ้งเป็นสัตว์ชนิดแรกที่สอนให้มนุษย์รู้จักกับรสหวานตามธรรมชาติ สิ่งนั้นคือน้ำผึ้งนั้นเอง มนุษย์โบราณได้รู้จักลิ้มรสน้ำผึ้งมานานนับหมื่นๆ ปีมาแล้ว หลักฐานของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ได้แสดงไว้คือภาพวาดบนผนังถ้ำของยุคหินกลางหรือยุคเมโซลิธิก ในประเทศสเปญ รูปวาดนั้นแสดงให้เห็นคนกำลังไต่เชือกขึ้นไปตีผึ้งเป็นอาหารที่มีความหวานจากธรรมชาติชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักเก็บนำมาใช้ก่อนที่จะรู้จักน้ำตาลจากพืชที่ใช้กันในปัจจุบัน
              กล่าวได้ว่าอียิปต์โบราณนับเป็นชนเผ่าแรกของโลกที่รู้จักการนำน้ำผึ้งมาเลี้ยงและย้ายรังผึ้งไปยังแหล่งที่มีดอกไม้อุดมสมบูรณ์ ได้มีการบันทึกมานานกว่า 2,300 ปี มาแล้วเกี่ยวกับการขนย้ายรังผึ้งโดยใช้ลา นอกจากนั้นมีการบันทึกการขนย้ายผึ้งจากอียิปต์บ่างไปตามแม่น้ำไนล์  ไปยังอียิปต์บนในฤดูดอกไม้กำลังบานและมีการนำผึ้งมาขาย เมื่อได้น้ำผึ้งเต็มรัง
             ในประเทศจีนได้มีการจารึกเกี่ยวกับการใช้น้ำผึ้งป่ามานานกว่า 3,000 แต่เริ่มเลี้ยงผึ้งโพรงกันจริงจังเมื่อประมาณ 300 ปีมานี้เอง โดยนำรังผึ้งจากในป่ามาเลี้ยงกันตามบ้านและเก็บน้ำผึ้งมาใช้เมื่อมีน้ำผึ้งเต็มรัง ปัจจุบันจีนได้คัดพันธุ์และผสมเทียมผึ้งจนได้สายพันธุ์ผึ้งโพรงชนิดใหม่สามารถผลิตน้ำผึ้งได้  50 กิโลกรัมต่อรัง
             ความสนใจในเรื่องผึ้งของคนไทยคงมีมานานหลายร้อยปี แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่นอน แต่สิ่งที่ยืนยันได้แน่คือยาไทยนั้นใช้ผสมกับน้ำผึ้งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนั้นคนไทยคงจะบริโภคน้ำผึ้งมานานนับร้อยปีมาแล้วเช่นกัน
                การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยที่เกาะสมุย นิยมเลี้ยงผึ้งโพรงมากที่สุดได้ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อได้ว่าชาวเกาะสมุยรู้จักเลี้ยงผึ้งมานานนับร้อยปีมาแล้ว ผู้เลี้ยงผึ้งโพรงในจังหวัดเชียงใหม่ที่อายุ 70 กว่าปีได้ยืนยันว่าในหมู่บ้านของชาวเหนือได้รู้จักการจับผึ้งโพรงมาเลี้ยงครั้งปู่ ย่า ตา ยาย มาแล้ว ดังนั้นการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยในภาคเหนือของประเทศไทยคงเป็นความรู้สืบทอดกันมากว่าร้อยปีเช่นกัน



    การเลี้ยงผึ้งในปัจจุบันในประเทศไทยแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ผึ้งโพรงและผึ้งพันธ์ ซึ่งเริ่มนำเข้ามาเลี้ยงกันจริงจังในทศวรรษนี้เองแต่ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเลี้ยงผึ้งที่จังหวัดเชียงใหม่ และที่จังหวัดจันทบุรี (พ.ศ. 2527) มีการยืนยันว่ามีผึ้งเลี้ยงอยู่ถึง 30,000 รังในประเทศไทย
     ชนิดของผึ้ง
      ผึ้งอยู่ในสกุลเอพิส เป็นแมลงที่สามารถเก็บสะสมน้ำหวานไว้ในรวงภายในรัง มีอยู่ทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่   ผึ้งมิ้ม ผึ้งหลวง ผึ้งโพรง ผึ้งเป็นผึ้งพื้นเมืองในแถบเอเชียตอนใต้ส่วนผึ้งชนิดที่ 4 คือ ผึ้งพันธ์ซึ่งเป็นผึ้งพื้นเมืองของทวีปยุโรปและแอฟริกา คุณสมบัติทางชีววิทยาของผึ้งทั้ง 4 ชนิดอย่างย่อๆ มีดังนี้
1.ผึ้งมิ้ม
ผึ้งมิ้มเป็นผึ้งที่สร้างรังประกอบด้วยรวงเดียว รูปทรงกลมหรือรี ขนาดรังไม่ใหญ่นัก เส้นผ่านศูนย์กลางส่วนใหญ่ไม่เกิน 20 เซนติเมตร แขวนห้อยอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ อยู่กลางแจ้งในธรรมชาติ ประชากรของผึ้งงานในรังมิ้ม ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมดถูกใช้ในการป้องกันรักษารังด้วยการแขวนตัวมันเองติดกับแผงคลุมรวงผึ้งทั้งรวง มีผึ้งงานในอัตราส่วนน้อยมากที่ออกไปหาอาหาร
                     2.ผึ้งหลวง
ผึ้งหลวงเป็นผึ้งพื้นเมืองอีกชนิดหนึ่งขิงประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทางคาบสมุทรอินเดีย และเอเชียอาคเนย์ ผึ้งหลวงมีการดำรงชีวิตคล้ายกับผึ้งมิ้ม กล่าวคือผึ้งหลวงจะสร้างรังประกอบด้วยรวงเพียงรวงเดียวห้อยจากกิ่งไม้ หน้าผา ตามบ้านและอาคาร รวงของผึ้งหลวงมีขนาดใหญ่บางครั้งเกินกว่า 1 เมตร รังของผึ้งหลวงมักจะทำรังแขวนอยู่ในที่โล่ง เราจึงไม่สามารถนำมาเลี้ยงในภาชนะได้และยังมีนิสับดุร้ายอีกด้วย
                     3.ผึ้งโพรง
ผึ้งโพรงเป็นผึ้งพื้นเมืองของประเทศไทย โดยธรรมชาติจะทำรังด้วยการสร้างรวงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยู่ในโพรงไม้ โพรงดิน ภายในใต้หลังคาหรือตามฝาผนังบ้าน ที่มีปากทางเข้าออกค่อนข้างเล็ก แต่ภายในมีที่กว้างพอที่จะสร้างรวงได้ ชอบสร้างรังในที่มือมิดชิด ผึ้งโพรงเป็นผึ้งที่มีอัตราการแยกรังค่อนข้างบ่อยครั้งเมื่ออาหารขาดแคลน มีโรคหรือศัตรูรบกวน
                   4.ผึ้งพันธ์
ผึ้งชนิดนี้เป็นผึ้งพื้นเมืองของทวีปยุโรปและอาฟริกา มีพฤติกรรมในการทำรังเช่นเดียวกับผึ้งโพรงของเอเชีย คือทำรังเป็นรวงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยู่ภายในโพรงไม้ธรรมชาติ ผึ้งชนิดนี้สร้างรังในที่มืด สามารถนำมาเลี้ยงในภาชนะได้ ผึ้งพันธ์นี้มีพฤติกรรมมักไม่ทิ้งรัง





ลักษณะทำเลที่ตั้งรังผึ้ง
สถานที่ที่เหมาะต่อการตั้งรังผึ้งควรให้อยู่ใกล้กับแหล่งพืชที่เป็นอาหารของผึ้งให้มากที่สุด และมีดอกไม้บานตลอดปี ควรจะเป็นลานโล่งใกล้กับแหล่งน้ำ แต่น้ำไม่ท่วม สถานที่เลี้ยงผึ้งนี้นิยมเรียกกันว่า "ลานเลี้ยงผึ้ง" การเลือกลานเลี้ยงผึ้งนับว่าเป็นบันไดขั้นแรก ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ทีเดียว ถ้าเลือกลานเลี้ยงผึ้งไม่ดี จะนำไปสู่ความหายนะได้ทันที เช่น เลือกลานเลี้ยงผึ้งที่ใกล้สวนผลไม้ที่ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเป็นประจำ ผึ้งจะได้รับพิษจากยาฆ่าแมลงตายได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งผู้เลี้ยงผึ้งเลือกลานเลี้ยงผึ้งใกล้ริมแม่น้ำ โดยมิได้ศึกษาเรื่องน้ำท่วมมาก่อนดังนี้ พอถึงฤดูฝน เกิดน้ำหลากไหลพัดพารังผึ้งจมน้ำหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ลานเลี้ยงผึ้งควรอยู่ในสวนผลไม้ หรือที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นฉากกำบังลมและแดด เพราะว่าถ้าลมแรงมากไป จะปะทะการบินของผึ้ง ในการบินออกหาอาหาร ถ้าร้อนมากไป ผึ้งจะต้องเสียพลังงานเป็นจำนวนมาก เพื่อลดความร้อนในรัง ลานผึ้งไม่ควรอยู่ในแหล่งชุมชน หรืออยู่ติดกับถนนที่มีแสงจากไฟฟ้า โดยเฉพาะผึ้งโพรงจะออกมาเล่นไฟในตอนหัวค่ำ และเช้ามืด ผึ้งที่ออกมาเล่นไฟนี้อาจจะตายได้ เพราะบินจนหมดแรง หรือถูกสัตว์พวกจิ้งจก ตุ๊กแก กบ และคางคกจับกิน ลานผึ้งที่อยู่ในที่ชุมชนติดทางเดินเท้า ผึ้งอาจจะบินไปชนและต่อยคนที่เดินผ่านไปมาได้ อย่างไรก็ตามควรเลือกลานผึ้งที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีการคมนาคมสะดวก เพราะมีความจำเป็นต้องขนย้ายรังผึ้งไปในแหล่งที่มีดอกไม้บานในบางครั้ง ตลอดจนสะดวกต่อการขนย้ายอุปกรณ์การเลี้ยงผึ้ง และผลิตการเก็บน้ำผึ้ง
ปัจจัยสำคัญซึ่งมีผลต่อการผลิตผึ้งนางพญา
๑. สภาพความแข็งแรงของรัง ที่ใช้สำหรับเลี้ยงตัวอ่อน ที่จะผลิตผึ้งนางพญา ถ้าหากมีความแข็งแรง และอุดมสมบูรณ์มาก อัตราการอยู่รอดสูงกว่ารังที่ไม่ค่อยแข็งแรง
๒. สภาพดินฟ้าอากาศเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญประการหนึ่ง คือ ถ้าหากอากาศไม่ปลอดโปร่งแจ่มใส ฝนตก ผึ้งงานจะไม่ค่อยยอมรับตัวหนอนที่ใส่ลงไป แต่ถ้าท้องฟ้าแจ่มใส มีแสงแดด ฝนไม่ตก ผึ้งงานจะยอมรับได้ง่าย ทำให้อัตราการอยู่รอดของตัวอ่อนมีมากกว่าในกรณีที่ดินฟ้าอากาศไม่ค่อยดี
๓. การบาดเจ็บของตัวหนอนขณะย้ายจากหลอดรวงไปใส่ในถ้วยนางพญา เนื่องจากการย้ายหนอนต้องใช้ไม้หรือโลหะ สำหรับตักตัวหนอนออกมา หากทำอย่างไม่ระมัดระวัง ก็มีโอกาสที่จะทำอันตรายกับตัวหนอนได้ง่าย ดังนั้นผู้ที่ฝึกทำในระยะแรก ควรตรวจดูผลของการย้ายตัวหนอนก่อน โดยใช้กล้องจุลทรรศน์แบบสเตอริโอ (กล้องสองตา)
๔. ระยะเวลาในการที่ตัวหนอนอยู่นอกรัง ควรใช้เวลาน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการย้ายตัวหนอน แล้วรีบเอาคอนถ้วยนางพญากลับคืนรังทันที เพราะสภาพแวดล้อมแตกต่างจากภายในรังผึ้ง ถ้าหากใช้เวลานาน อาจทำให้ตัวหนอนตายได้
๕. การแยกหลอด และการขนย้ายหลอดผึ้งนางพญา ไม่ควรทำในขณะที่ผึ้งมีอายุน้อยๆ เพราะโอกาสที่จะกระทบกระเทือนมีค่อนข้างสูง และต้องกระทำอย่างนุ่มนวลที่สุด
๖. เมื่อผึ้งนางพญาที่อยู่ในรังผสมพันธุ์ แล้วเริ่มวางไข่อย่างสม่ำเสมอ และแน่ใจว่า ผึ้งรุ่นลูกที่ออกมาเป็นผึ้งงานแล้ว จึงเริ่มแยกรังโดยนำผึ้งนางพญาตัวใหม่นี้ ไปใส่ในรังที่ขาดผึ้งนางพญาที่เตรียมไว้ได้ทันที ในกรณีเปลี่ยนนางพญาที่มีอายุมากที่เราไม่ต้องการ ให้จับนางพญาตัวที่ไม่ต้องการออก และใส่นางพญาตัวใหม่ที่อยู่ในกรงขนาดเล็กลงไป 

บทที่ 1 บทนำ

บทที่ ๑
บทนำ

ความสำคัญและที่มาของปัญหา
     ผึ้งเป็นแมลงที่คุ้นเคยกับมนุษย์มากที่สุดกล่าวได้ว่า ผึ้งเป็นสัตว์ชนิดแรกที่สอนให้มนุษย์รู้จักกับรสหวานตาธรรมชาติ สิ่งนั้นคือน้ำผึ้งนั่นเอง  มนุษย์โบราณได้รู้จักลิ้มรสน้ำผึ้งมานานนับหมื่นๆปีมาแล้ว หลักฐานของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ได้แสดงไว้คือ ภาพวาดบนผนังถ้ำของยุคหินกลาง ในประเทศสเปน  ภาพวาดนั้นแสดงให้เห็นคนกำลังไต่เชือกขึ้นไปตีผึ้งที่อยู่ในโพรงไม้และเก็บน้ำผึ้งใส่ตะกร้า ภาพนี้สร้างความเชื่อมันให้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับได้ว่าผึ้ง น้ำผึ้งเป็นอาหารที่ความหวานุจากธรรมชาติชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้ก่อนที่จะรู้จักน้ำตาลจากพืช ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของผึ้งโพรงไทย
2.เพื่อศึกษากระบวนการทำงานของสังคมผึ้ง
3.เพื่อปรับปรุงวิธีการเลี้ยงและแนะนำเทคนิคใหม่ๆเข้ามาใช้
4.เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมให้มีการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยมากยิ่งขึ้น
5.เพื่อสนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัยและปรับปรุงพันธุ์ของผึ้ง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้รับความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตความเป็นอยู่ของผึ้งโพรงไทย
2.ได้น้ำผึ้งซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง
3.ผึ้งช่วยผสมเกสรดอกไม้ให้ติดผลมากยิ่งขึ้น
4.ผู้มีความรู้ความเข้าใจสามารถทำเป็นอาชีพได้
5.เป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยและปรับปรุงพันธุ์


เค้าโครง โครงงานเรื่องการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย

องค์ประกอบเค้าโครงของโครงงาน
ชื่อโครงงาน   เรื่อง การเลี้ยงผึ้งโพรงไทย
ชื่อผู้จัดทำ     นางสาว อรญา   อุราฤทธิ์  ชั้น ม.4/2   เลขที่ 29
ระยะเวลาในการดำเนินงาน     1 เดือน 20 วัน
ที่มาความสำคัญ หรือแนวคิด
     ผึ้งเป็นแมลงที่คุ้นเคยกับมนุษย์มากที่สุดกล่าวได้ว่า ผึ้งเป็นสัตว์ชนิดแรกที่สอนให้มนุษย์รู้จักกับรสหวานตาธรรมชาติ สิ่งนั้นคือน้ำผึ้งนั่นเอง  มนุษย์โบราณได้รู้จักลิ้มรสน้ำผึ้งมานานนับหมื่นๆปีมาแล้ว หลักฐานของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ได้แสดงไว้คือ ภาพวาดบนผนังถ้ำของยุคหินกลาง ในประเทศสเปน  ภาพวาดนั้นแสดงให้เห็นคนกำลังไต่เชือกขึ้นไปตีผึ้งที่อยู่ในโพรงไม้และเก็บน้ำผึ้งใส่ตะกร้า ภาพนี้สร้างความเชื่อมันให้นักวิทยาศาสตร์ยอมรับได้ว่าผึ้ง น้ำผึ้งเป็นอาหารที่ความหวานุจากธรรมชาติชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้ก่อนที่จะรู้จักน้ำตาลจากพืช ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้
    กล่าวได้ว่าอียิปต์โบราณนับเป็นชนเผ่าแรกชองโลกที่รู้จักการนำผึ้งมาเลี้ยงและย้ายรังผึ้งไปยังแหล่งที่มีดอกไม้อุดมสมบูรณ์ ได้มีการบันทึกมานานกว่า 2,300 ปีมาแล้วเกี่ยวกับการขนย้ายรังผึ้งโดยใช้ควัน นอกจากนี้มีบันทึกการขยายรังผึ้งจากอียิปต์ล่างไปตามแม่น้ำไนล์ไปยังอียิปต์บนในฤดูดอกไม้กำลังบานและมีการนำผึ้งมาขายเมื่อน้ำผึ้งเต็มรัง
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของผึ้งโพรงไทย
2.เพื่อศึกษากระบวนการทำงานของสังคมผึ้ง
3.เพื่อปรับปรุงวิธีการเลี้ยงและแนะนำเทคนิคใหม่ๆเข้ามาใช้
4.เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมให้มีการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยมากยิ่งขึ้น
5.เพื่อสนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัยและปรับปรุงพันธุ์ของผึ้ง
เป้าหมาย
ได้น้ำผึ้งซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ลงทุนน้อย ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ทางอ้อม และผึ้งยังช่วยผสมเกสรดอกไม้ให้ติดผลมากยิ่งขึ้น



หลักการและทฤษฎี
 ผึ้งเป็นแมลงสังคมที่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่หรือเป็นกลุ่มสมาชิกในภายในรัง แต่ละรังจะมีหนึ่งครอบครัว ประกอบด้วย 3 วรรณะ คือ ผึ้งนางพญา ผึ้งตัวผู้  ผึ้งงาน ซึ่งภายในหนึ่งรังจะมีผึ้งนางพญาหนึ่งตัว   ผึ้งตัวผู้หลายร้อยตัวและผึ้งงานหมื่นๆตัวหรือมากกว่านั้น
วิธีการดำเนินการ/อุปกรณ์ในการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย
๑. กระป๋องรมควัน    ๒. หมวกคลุมศีรษะ  ๓. กล่องขังนางพญา   ๔. มีด 
๕. คอนผึ้ง ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ทั้งหมด ๔ อัน ทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยม 
๖. กล่องเลี้ยงผึ้ง ทำด้วยแผ่นไม้เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีความยาว ๕๐ ซม. ความกว้าง ๔๑ ซม. ความสูง ๒๔ ซม. 
๗. แผ่นรังเทียม (Foundation)หรือแผ่นฐานรวง คือ แผ่นไขผึ้ง ที่ถูกพิมพ์ให้เป็นรอยตารางทั้งหกเหลี่ยม ทั้งสองหน้า นำมาตรึงตรงกลางของคอน เพื่อที่จะให้ผึ้งงานสร้างหลอดรวง 
๘. อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ค้อน ตะปู เลื่อย ลวด มีด ฯลฯ
ตารางผลการสำรวจผึ้งโพรงไทย

 


ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้รับความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตความเป็นอยู่ของผึ้งโพรงไทย
2.ได้น้ำผึ้งซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง
3.ผึ้งช่วยผสมเกสรดอกไม้ให้ติดผลมากยิ่งขึ้น
4.ผู้มีความรู้ความเข้าใจสามารถทำเป็นอาชีพได้
5.เป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยและปรับปรุงพันธุ์
เอกสารอ้างอิง
-ประดับ  แจ่มแสง การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยเบื้องต้นโรงพิมพ์ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไทยอนุเคราะห์ไทย พ.ศ. 2521

-ประยงค์  จึงอยู่สุข คู่มือการเลี้ยงผึ้งพันธุ์โรงพิมพ์ไทยนิวส์การพิมพ์